“นางตะเคียน” เป็นตำนานที่มีการเล่ากันมานับพันปีในวัฒนธรรมไทย นางตะเคียนถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วแต่ยังมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งเพื่อมาสะดุดคนโดยเฉพาะคนที่ทำผิดกฎหมายหรือที่มีความปกปิดทางเพศ เป็นต้น
ตามคำเล่านิยายและตำนานของท้องถิ่น นางตะเคียนมักถูกวิงวอนจากเรื่องราวของผู้หญิงที่ตายแล้วและกลับมาเป็นผีเพื่อล้างแค้น มักจะเป็นผู้หญิงที่เสียชีวิตโดยรวมถึงคนที่ตายจากการเคลื่อนไหวทางเพศที่ไม่ถูกต้อง และมักมีลักษณะเหมือนผีหลอกลวงคนอย่างในภาพยนตร์สยองขวัญ
นางตะเคียนมักจะมีลักษณะเด่นๆ คือการครอบครองสีส้มสดใส หน้าสดใส และใช้เสียงเสียดสี โดยมักจะเดินเข้าไปในที่ห่างไกลจากสถานที่ที่เธอตายไป แล้วค่อยๆเคลื่อนที่มาใกล้ๆเมื่อมีคนเดินผ่าน หรือเข้าไปอยู่ในบ้านของผู้ที่เคยทำผิดกฎหมายและช่วยพาไปทำชีวิตใหม่โดยไม่มีการกระทำชั่วร้ายแก่ผู้นั้น แต่ก็มีกรณีที่เธอจะทำอันตรายต่อคนที่กลับมาทำชีวิตใหม่แบบไม่ถูกต้องด้วยการตายโดยไม่ธรรมดา ถึงแม้นางตะเคียนจะทำด้วยความกรุณาแต่ก็มีเงื่อนไขของการปฏิบัติตามข้อบังคับของหลักธรรมะที่เธอยังยึดถืออยู่
การนำเรื่องนางตะเคียนมาเป็นหนังยังคงได้รับความนิยมในวงการภาพยนตร์ไทย แม้จะไม่มีหนังที่มีชื่อเรื่องเป็น “นางตะเคียน” แต่มักจะมีฉากหรือเรื่องราวที่สะท้อนถึงเรื่องราวของนางตะเคียนอยู่บ้างในภาพยนตร์สยองขวัญไทย
“นางตะเคียน” เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ได้รับความนิยมในวัฒนธรรมไทยและได้ถูกนำเสนอในหลายภาพยนตร์ แม้ว่าจะไม่มีหนังที่ชื่อว่า “นางตะเคียน” อย่างเดียว แต่มักจะมีหลายฉากหรือเนื้อเรื่องที่สะท้อนถึงเรื่องราวของนางตะเคียนในภาพยนตร์ไทยสยองขวัญหรืออนาคต นี่คือบางหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับนางตะเคียน:
- หอคำพิพัฒน์ (The Promise): เป็นภาพยนตร์ไทยที่ปล่อยเข้าฉายในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่สะท้อนถึงนางตะเคียนและวงศ์ตระกูลของเธอ
- ก๊กอยากขึ้นมา (Goh: A Monster in Paris): เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันของฝรั่งเศสที่ปล่อยเข้าฉายในปี ค.ศ. 2011 ภาพยนตร์นี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับตำนานเรื่องนางตะเคียนในบางส่วน
- หอศิลป์ (The Art Gallery): เป็นภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายในปี พ.ศ. 2555 ภาพยนตร์นี้เล่าเรื่องราวของห้องแสดงศิลป์ที่เกิดเหตุการณ์ผีกระหัง ซึ่งบางส่วนอาจมีสัมผัสหรือผสมกับเรื่องราวของนางตะเคียนบ้าง
- อินดี้ เดอะ เบสท์ (Indie The Best): เป็นภาพยนตร์ไทยที่ปล่อยเข้าฉายในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ที่มีส่วนของเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนางตะเคียน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยของภาพยนตร์ที่มีส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องหรือฉากที่สะท้อนถึงเรื่องราวของนางตะเคียนในวงการภาพยนตร์ไทย
ความหน้ากลัวต่อนางตะเคียนสามารถมีต้นเหตุมาจากความเชื่อทางวัฒนธรรม ความเป็นที่รู้จักและถูกนำเสนอในเรื่องราวและตำนานท้องถิ่น หรือมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละบุคคล โดยมักจะมีลักษณะของความหวาดกลัวจากสิ่งที่เป็นลักษณะเฉพาะของนางตะเคียนเอง
นางตะเคียนมักจะถูกอธิบายว่ามีลักษณะเด่นเป็นสีส้มสดใสหรือสีเขียว หน้าหนึ่งดี มีเสียงเสียดสี และมักเป็นตัวหญิงหรือเจ้าหญิงที่โดดเด่น มักเห็นเธอตามหน้าต่างหรือทางเดินที่มืดๆ และเมื่อเธอปรากฏขึ้นมักมีการเกิดเหตุการณ์ประหลาดหรืออันตรายในสถานที่ต่างๆ
ความหวาดกลัวต่อนางตะเคียนอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความเชื่อที่ว่าเธอมีความสามารถในการเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ หรือสามารถทำให้เกิดความเสียหายและบาดเจ็บต่อคนได้ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าการพบเจอนางตะเคียนเป็นเครื่องดีงามของศัตรูทางจิตใจหรือสิ่งร้ายแรงอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันของพวกเขาได้ด้วย ดังนั้นความหวาดกลัวต่อนางตะเคียนมักเกิดจากความไม่มั่นใจหรือความสงสัยในสิ่งที่เป็นลักษณะเฉพาะของเธอและความสามารถในการควบคุมสิ่งร้ายแรงได้
นางตะเคียนถือเป็นวิญญาณหรือผีที่มีความสามารถต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากคนที่เสียชีวิตแล้ว หรือเป็นผลของการปฏิเสธอดีต นางตะเคียนมีความสามารถที่น่ากลัวและเป็นอันตรายต่อมนุษย์ นี่คือบางความสามารถที่น่าจะมีของนางตะเคียน:
- การเปลี่ยนร่าง: นางตะเคียนเชื่อว่ามีความสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นรูปลักษณ์ของผู้หญิงหรือชายตามต้องการ
- การใช้เสียงเสียดสี: เธอมักใช้เสียงเสียดสีเพื่อล่อใจและสะกดทอดผู้คน
- การก่อกวนและขัดแย้ง: นางตะเคียนมักก่อกวนและทำให้ผู้คนมีความสับสนและขัดแย้งกัน
- การคุกคามและสร้างความสะดุด: เธอมักทำให้คนรู้สึกกลัวหรือสะดุดตาย โดยเฉพาะเมื่อถูกดึงดูดเข้าไปในเรื่องราว
- การเล่นเทลล์เทล: นางตะเคียนอาจใช้เทลล์เทล์ในการพูดหรือเล่นเพื่อสร้างความสะดุดให้กับผู้คน
- การสร้างเหตุการณ์ผิดปกติ: เธอมักสร้างเหตุการณ์ที่ผิดปกติหรือน่ากลัวเพื่อขู่เข็ญหรือทำให้ผู้คนมีความสับสน
นางตะเคียนมักถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวและสะดุดตาย และมักถูกให้ความเคารพและเคียงบังครั้งหนึ่งในวัฒนธรรมไทย
ในความเงียบสงบของคืนที่มืดมิด สายลมพัดเบาบางเหมือนเสียงหายใจอันลงมาเลยจากโลกของผีไปยังโลกของมนุษย์ เมื่อคืนเหล่านางตะเคียนจะเริ่มปรากฏตัวขึ้น เดินเข้ามาในบ้านที่ร้างเริง ดังเสียงเสียดสีของเสียงกว่าจะดูเหมือนจะเป็นแม่แบบของความหนาวหนึบและรำคาญ แม้ในคืนที่มืดมิดก็ยังมีแสงของเพลงหรือเสียงดนตรีเล็กๆ บางเสียงที่กลัวและบางที่น่าสนใจ มันมีเสียงที่กล่าวถึงความกลัวของคน และเหมือนบางครั้งก็เหมือนกลายเป็นเสียงการร้องเพลงที่เศร้าสลด
เมื่อกลางคืนเวลา 3 โมงเป็นต้นมา เสียงร้องเพลงของเทพีของความมืดจะเริ่มจะปลุกปั่นใจของคนที่นอนหลับให้ตื่นขึ้นมา เสียงร้องที่กลายเป็นเสียงร้องของความหวาดกลัวของคนที่ต้องพบกับความมืดและความที่ไม่สามารถอธิบายได้ มันเป็นเสียงที่เตือนใจคนที่พบกับมันว่ามันไม่เคยเคลื่อนไหวเป็นคนรู้จักดีและความหวาดกลัวจะได้รับความผาสุกจากการพบกับมันอย่างรุนแรง
เป็นเสียงที่น่ากลัวของคนที่มีเกมเสียงเล่นเป็นครั้งแรก มันคือเสียงของความหวาดกลัวที่ถูกสร้างขึ้นจากเสียงร้องของเหล่านางตะเคียนที่กำลังรบเพื่อให้การช่วยเหลือจากความหวาดกลัวของคนที่ต้องพบกับมัน เสียงนี้คือเสียงที่ยกขึ้นจากหลังของการร้องเพลงที่เดียวและการแสดงที่สุดของความหวาดกลัวที่เขามี มันกลายเป็นเสียงที่อึดอัดและน่ากลัวอย่างมากในแบบที่เขามี
เสียงร้องเพลงของเหล่านางตะเคียนยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือเสียงที่ทำให้ความหวาดกลัวจากนางตะเคียนอยู่ในอำนาจและเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อคนที่เผชิญหน้ากับเสียงร้องของเหล่านางตะเคียนคนเหล่านี้จะรู้สึกว่าใจของพวกเขาจะต้องต่อสู้กับความหวาดกลัวให้ทันทีที่มันเกิดขึ้นในใจของพวกเขา การเผชิญหน้ากับเสียงนี้เป็นการรู้สึกว่าความหวาดกลัวของพวกเขาไม่สามารถทนได้และเขาจะต้องต่อสู้กับมันอย่างหนักแน่นอน