ควายธนูเป็นหนึ่งในตำนานที่ทรงพลังและลึกลับในวัฒนธรรมไทย ควายธนูไม่ใช่สัตว์ธรรมดาแต่เป็นสัตว์ที่ถูกสร้างขึ้นจากเวทมนตร์และคาถาเพื่อใช้ในเหตุการณ์ที่ต้องการปกป้องหรือแก้แค้น ศาสตร์การสร้างควายธนูนี้มีรากฐานลึกซึ้งในคติชนไทยที่ผสมผสานความเชื่อเรื่องวิญญาณ เวทมนตร์ และความศักดิ์สิทธิ์ ที่มาของควายธนู ควายธนูมีที่มาจากคติชนและความเชื่อของคนไทยที่เชื่อในพลังอำนาจของเวทมนตร์และคาถา ตั้งแต่โบราณ การสร้างควายธนูจำเป็นต้องใช้วัสดุและส่วนประกอบที่มีพลังอำนาจ เช่น ดินจากสุสาน เส้นผมของคนตาย และเลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ การประกอบพิธีสร้างควายธนูต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์และต้องทำตามขั้นตอนที่ซับซ้อนและเคร่งครัด วิธีการสร้างควายธนู การสร้างควายธนูเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยพิธีกรรม การเตรียมวัสดุ การบูชา และการปลุกเสกคาถาล้วนมีความสำคัญ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนการสร้างควายธนู: การเตรียมวัสดุ: วัสดุที่ใช้ในการสร้างควายธนูต้องมีความศักดิ์สิทธิ์และเกี่ยวข้องกับวิญญาณ เช่น ดินจากสุสานที่มีพลังวิญญาณ เส้นผมของคนตายที่มีวิญญาณแฝงอยู่ และเลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจ การประกอบพิธี: การประกอบพิธีบูชาเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก พิธีนี้ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์และต้องทำในสถานที่ที่มีพลังอำนาจ เช่น วัด หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ประกอบพิธีจะต้องอ่านคาถาและทำพิธีตามขั้นตอนที่กำหนด การปลุกเสก: หลังจากประกอบพิธีบูชาแล้ว ผู้สร้างจะต้องทำการปลุกเสกควายธนูโดยการอ่านคาถาและทำพิธีต่างๆ เพื่อให้ควายธนูมีชีวิตและพลังอำนาจตามที่ต้องการ การปลุกเสกนี้เป็นกระบวนการที่ต้องการความเชี่ยวชาญและการทุ่มเท พลังอำนาจของควายธนู ควายธนูมีพลังอำนาจที่น่ากลัวและทรงพลัง มันสามารถทำหน้าที่ต่างๆ เช่น การโจมตีศัตรู การแก้แค้น หรือการปกป้องและคุ้มครองเจ้าของ ควายธนูในตำนานมักถูกกล่าวถึงว่าไม่สามารถถูกทำลายได้ง่ายและมีพลังอำนาจในการทำลายล้างสูง ตำนานและเรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง ในวรรณกรรมและเรื่องเล่าพื้นบ้านของไทย มีเรื่องราวเกี่ยวกับควายธนูมากมาย เรื่องเล่าหนึ่งที่มีชื่อเสียงคือเรื่องราวของควายธนูที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้แค้นคนที่ทรยศต่อเจ้าของContinue Reading

“นางตะเคียน” เป็นตำนานที่มีการเล่ากันมานับพันปีในวัฒนธรรมไทย นางตะเคียนถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วแต่ยังมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งเพื่อมาสะดุดคนโดยเฉพาะคนที่ทำผิดกฎหมายหรือที่มีความปกปิดทางเพศ เป็นต้น ตามคำเล่านิยายและตำนานของท้องถิ่น นางตะเคียนมักถูกวิงวอนจากเรื่องราวของผู้หญิงที่ตายแล้วและกลับมาเป็นผีเพื่อล้างแค้น มักจะเป็นผู้หญิงที่เสียชีวิตโดยรวมถึงคนที่ตายจากการเคลื่อนไหวทางเพศที่ไม่ถูกต้อง และมักมีลักษณะเหมือนผีหลอกลวงคนอย่างในภาพยนตร์สยองขวัญ นางตะเคียนมักจะมีลักษณะเด่นๆ คือการครอบครองสีส้มสดใส หน้าสดใส และใช้เสียงเสียดสี โดยมักจะเดินเข้าไปในที่ห่างไกลจากสถานที่ที่เธอตายไป แล้วค่อยๆเคลื่อนที่มาใกล้ๆเมื่อมีคนเดินผ่าน หรือเข้าไปอยู่ในบ้านของผู้ที่เคยทำผิดกฎหมายและช่วยพาไปทำชีวิตใหม่โดยไม่มีการกระทำชั่วร้ายแก่ผู้นั้น แต่ก็มีกรณีที่เธอจะทำอันตรายต่อคนที่กลับมาทำชีวิตใหม่แบบไม่ถูกต้องด้วยการตายโดยไม่ธรรมดา ถึงแม้นางตะเคียนจะทำด้วยความกรุณาแต่ก็มีเงื่อนไขของการปฏิบัติตามข้อบังคับของหลักธรรมะที่เธอยังยึดถืออยู่ การนำเรื่องนางตะเคียนมาเป็นหนังยังคงได้รับความนิยมในวงการภาพยนตร์ไทย แม้จะไม่มีหนังที่มีชื่อเรื่องเป็น “นางตะเคียน” แต่มักจะมีฉากหรือเรื่องราวที่สะท้อนถึงเรื่องราวของนางตะเคียนอยู่บ้างในภาพยนตร์สยองขวัญไทย “นางตะเคียน” เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ได้รับความนิยมในวัฒนธรรมไทยและได้ถูกนำเสนอในหลายภาพยนตร์ แม้ว่าจะไม่มีหนังที่ชื่อว่า “นางตะเคียน” อย่างเดียว แต่มักจะมีหลายฉากหรือเนื้อเรื่องที่สะท้อนถึงเรื่องราวของนางตะเคียนในภาพยนตร์ไทยสยองขวัญหรืออนาคต นี่คือบางหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับนางตะเคียน: หอคำพิพัฒน์ (The Promise): เป็นภาพยนตร์ไทยที่ปล่อยเข้าฉายในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่สะท้อนถึงนางตะเคียนและวงศ์ตระกูลของเธอ ก๊กอยากขึ้นมา (Goh: A Monster in Paris): เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันของฝรั่งเศสที่ปล่อยเข้าฉายในปี ค.ศ. 2011 ภาพยนตร์นี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับตำนานเรื่องนางตะเคียนในบางส่วน หอศิลป์ (The Art Gallery): เป็นภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายในปีContinue Reading

“ผีกระหัง” เป็นตำนานหรือเรื่องราวที่มีมานานโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผีกระหังเป็นตัวละครในนิทานและตำนานที่มีลักษณะเป็นวิญญาณหรือผีที่มีรูปร่างคล้ายกับคน แต่มักมีลักษณะอย่างเหลวๆ หรือมัวๆ ไม่ชัดเจน บางครั้งอาจเป็นร่างผีที่มีรูปร่างคล้ายกับคนทั่วๆ ไป แต่บางครั้งก็อาจมีลักษณะแปลกๆ หรือน่าสยองขวัญมากขึ้น เช่น มีหัวเป็นกระหังหรือเป็นสิ่งที่ขาดหายไป ผีกระหังมักถูกเชื่อว่าเป็นผีที่เกิดจากคนที่ตายโดยไม่สมประกอบ หรือมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องในชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้ ผีกระหังยังมักถูกเชื่อว่าเป็นผีที่หลอกลวงมนุษย์ให้หลงผิดทางหรือทำให้มนุษย์ตกเป็นเหยื่อ โดยอาจจะมีการเลียนแบบร่างของคนที่เคยรู้จัก หรือกลายร่างเป็นคนที่มีน้ำตาลดำหรือคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ผีกระหังมักถูกเป็นที่ยอมรับในชุมชนเป็นสิ่งที่สร้างความกลัวและน่าสยองขวัญ และมักถูกนำเสนอในเรื่องราวและนิทานเพื่อสร้างความสนุกสนานหรือเพื่อเรียนรู้คำสั่งศีลธรรมและความรู้ต่างๆ ในสังคม ผีกระหังมักถูกเชื่อว่ามีความสามารถและอิทธิพลต่อมนุษย์ในหลายด้าน ซึ่งความสามารถเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามความเชื่อและตำนานในแต่ละภูมิภาค อาจมีดังนี้: การปลุกความกลัวและสร้างความหวาดกลัว: ผีกระหังมักมีความสามารถในการปลุกความกลัวและสร้างความหวาดกลัวให้กับมนุษย์ โดยการปรากฏตัวในรูปของวิญญาณหรือร่างกายที่น่าสยองขวัญ มักเห็นผีกระหังปรากฏในที่ร้างเรือนหรือสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์เชื่องเสียงเกี่ยวกับความผิดปกติหรือเหตุการณ์ผี การสร้างสถานการณ์ที่ไม่สมประกอบ: ผีกระหังมักมีความสามารถในการสร้างสถานการณ์ที่ไม่สมประกอบหรือไม่ปกติในสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นการเคลื่อนไหวของวัตถุโดยอัตโนมัติ การเปิด-ปิดของประตูหรือหน้าต่างโดยไม่มีสาเหตุ หรือเสียงรบกวนที่ไม่สามารถอธิบายได้ การควบคุมและสร้างอิทธิพล: ผีกระหังอาจมีความสามารถในการควบคุมและสร้างอิทธิพลต่อมนุษย์ โดยการทำให้พวกเขาแสดงพฤติกรรมที่ไม่ปกติ หรือให้สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เชื่องสั่งทำตามคำสั่งของผีกระหัง การทำให้สุขภาพเสียหาย: ผีกระหังมักมีความสามารถในการทำให้สุขภาพของมนุษย์เสียหาย โดยอาจทำให้เกิดโรคหรืออาการทางจิตที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ความเครียด ซึมเศร้า หรืออาการที่ไม่สามารถอธิบายได้ทางทรวงอก การเสียดายและประงับความเจริญ: ผีกระหังอาจมีความสามารถในการเสียดายและประงับความเจริญของมนุษย์ โดยการก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือปัญหาในชีวิตทั้งตัวร่างและจิตใจ การเชื่อว่าคนสามารถกลายเป็นผีกระหังมีตำนานและความเชื่อที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรมContinue Reading

“ผีกองกอย” เป็นนักบุญที่เชื่อว่ามีความศรัทธาอย่างกล้าหาญและจิตใจแข็งแกร่ง ตั้งใจทำบุญและกุศลเพื่อเจ้าแม่พระโขนง เขาเชื่อในการช่วยเหลือผู้คนและการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ แต่เขาก็ยังมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับสิ่งมรณะและภูติใจที่เข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้านหรือชุมชนของเขา นักบุญตัวนี้มักจะถูกเรียกให้ช่วยเหลือในการไล่ผีหรือขับผีออกจากที่ เขาเป็นศัตรูของสิ่งมรณะและปีศาจ แต่ในบางกรณีเขาก็อาจกลายเป็นฮีโร่ที่มีความเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางจิตใจหรือการกระทำที่ชั่วร้ายของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับการปกป้องคนที่เขารักหรือชุมชนของเขา “ผีกองกอย” เป็นเรื่องราวที่มีหลายเวอร์ชันและมีการถ่ายทำในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งนักแสดงที่เข้าร่วมในการกำกับและแสดงในเรื่องนี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละเวอร์ชัน แต่นักแสดงที่มักจะมีบทบาทสำคัญในเรื่อง “ผีกองกอย” รวมถึง: สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ากองกอย: เป็นบทบาทหลักที่เรื่อง “ผีกองกอย” มุ่งเสนอเรื่องราวของพระราชินีหรือเจ้าหญิงที่ถูกฆ่าโดยการประหารชีวิตแล้วกลายเป็นวิญญาณ หรือตำรวจที่ถูกฆ่าในสถานที่เฉพาะหน้า ภายหลังเรื่องนี้เข้าสู่การเล่าสู่เรื่องเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไปกับสถานการณ์ที่มากมายที่พร้อมกับหลอมรวมกับร่างกายของพระเจ้าลูกเธอ นักแสดงที่รับบท “ผีกองกอย”: นักแสดงที่รับบทเป็น “ผีกองกอย” มักจะต้องมีความสามารถในการแสดงที่สามารถสร้างความสยองขวัญและความสะพรึงกลัวให้กับผู้ชม ซึ่งบางครั้งก็อาจเป็นบทบาทของนักแสดงผู้มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์สยองขวัญหรือแฮร์ร่วมสยองขวัญ นักแสดงรับบทตัวละครรอง: นอกจากนักแสดงที่รับบท “ผีกองกอย” แล้วยังมีนักแสดงที่รับบทตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความละอายและความสยองขวัญให้กับเรื่อง นักแสดงที่เข้าร่วมในการแสดงของ “ผีกองกอย” อาจมีความหลากหลายตามแต่ละเวอร์ชัน และมักจะมีการเลือกนักแสดงที่มีความสามารถในการแสดงบทบาทที่สามารถสร้างความผิดปกติและความสะพรึงกลัวให้กับผู้ชมได้อย่างเหมาะสม การลองจินตนาการเกี่ยวกับความน่ากลัวในระดับนั้นต้องการการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนที่ละเอียดเข้าไปในฉากของภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างความสยองและความหวาดกลัวที่สุดในจิตใจของผู้ชม ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเรื่องที่ล้วนแล้วแต่ความเชื่อส่วนตัวและประสบการณ์ส่วนบุคคลของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม การลองเขียนเรื่องราวความน่ากลัวที่ยาวมากขนาดนี้อาจเป็นงานที่ยากและเรียบร้อยมาก เนื่องจากความน่ากลัวมักจะมาจากความรู้สึกที่แท้จริงและสถานการณ์ที่สร้างความวิตกกังวล ที่จะบอกเล่าเรื่องราวแบบนั้นอย่างมีชั้นคิดและเป็นเรื่องสร้างสรรค์อาจเป็นเรื่องที่ต้องการความพยายามและความคิดสร้างสรรค์อย่างสูงจริงๆ แต่ผมยินดีที่จะช่วยเริ่มต้นด้วยการให้ความแรงในการลองจินตนาการ หากคุณต้องการตัวช่วยในการสร้างเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นแนวสยองขวัญหรืออื่นๆ โปรดแจ้งมานะครับ ผมยินดีที่จะช่วยให้คำแนะนำและแบ่งปันความคิดเห็นได้เสมอ แต่การเขียนเรื่องราวที่ยาวนานมากขนาดนี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากและมีความพยายามในการสร้างเนื้อเรื่องที่ทันสมัยและน่าสนใจในทุกมุมมองContinue Reading

“ปอบผีฟ้า” หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Skyline Ghosts” เป็นภาพยนตร์สยองขวัญและแอ็คชันวิเทศที่ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ. 2010 ผลิตโดยคู่แข่งของผู้กำกับ Colin Strause และ Greg Strause ซึ่งร่วมกันเขียนบทและผลิตภาพยนตร์ด้วย เรื่องราวของ “ปอบผีฟ้า” เกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีจากมนุษย์ต่างดาวที่มีความสามารถในการดึงคนลงมาจากพื้นโลก โดยใช้แสงสีฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้มนุษย์ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เมื่อเพื่อนๆ รู้ตัวว่ามีเหล่ามนุษย์ต่างดาวและกองทัพของพวกเขากำลังจะครองโลก พวกเขาจะต้องรวบรวมกำลังของตนเองเพื่อต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ “ปอบผีฟ้า” เป็นภาพยนตร์ที่มีกราฟิกส์อันสวยงามและอุปสรรคที่ร่างกายและเอฟเฟกต์พิเศษที่ทันสมัย เรื่องราวของมันมีความสมดุลระหว่างแอ็คชันและสยองขวัญ แม้ว่าไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับหลายภาพยนตร์สยองขวัญอื่น ๆ แต่ “ปอบผีฟ้า” ก็ยังมีการจัดเรียงและฉากต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่มีการแสดงออกมาอย่างดี “ปอบผีฟ้า” หรือ “Skyline Ghosts” นั้นไม่มีเรื่องราวหรือความเป็นมาที่เชื่อมโยงกับการกลายเป็นผีก่อนจะมาเป็นผีกระสือ แท้จริงแล้ว “ปอบผีฟ้า” เป็นภาพยนตร์ที่เน้นเรื่องราวของมนุษย์ที่ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากมนุษย์ต่างดาวที่มีความสามารถในการดึงคนลงมาจากพื้นโลก การกลายเป็นผีหรือผีกระสือมักเป็นเรื่องราวและความเชื่อทางประชากรที่เป็นลักษณะที่แตกต่างกันไปในทุกๆ วัฒนธรรมและสำรับศาสนา ซึ่ง “ปอบผีฟ้า” ไม่ได้เน้นเรื่องราวดังกล่าว แต่เน้นไปที่แง่มุมของการต่อสู้ของมนุษย์ในการปกป้องตัวเองจากการกลายเป็นเหยื่อของมนุษย์ต่างดาวที่มีพลังเหนือมนุษย์ ดังนั้นไม่มีข้อมูลหรือเนื้อหาใน “ปอบผีฟ้า” ที่เชื่อมโยงกับความเป็นมาของผีหรือผีกระสือใดๆ แต่เน้นไปที่เรื่องราวของการแล่นลุก การต่อสู้ และการรอดต่อจากภัยร้ายที่มาจากพวกมนุษย์ต่างดาวแทน “ปอบผีฟ้า”Continue Reading

คำว่า “ผีกระสือ” เป็นคำที่น่าสนใจและมีบทบาทในเครือข่ายของตำนานและเรื่องราวเล่าของหลายวัฒนธรรมต่าง ๆ แต่มักจะมีความหมายและลักษณะที่แตกต่างกันไปตามบทบาทและบทบาททางวรรณกรรมของมันในแต่ละวัฒนธรรม ในบางกระแสเรื่องราวหรือความเชื่อ ผีกระสือมักถูกพิจารณาว่าเป็นวิญญาณหรือปีศาจที่มีลักษณะเป็นสัตว์ประหลาด มักถูกบอกเป็นมิตรและอัศจรรย์ในบางเรื่อง ในขณะที่ในเรื่องราวอื่น ๆ ผีกระสืออาจเป็นสัญลักษณ์ของความหวาดกลัว ความอึดอัด หรือความทุกข์ยาก ในวัฒนธรรมไทย ผีกระสือเป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า “ผีสามอย่าง” ซึ่งประกอบไปด้วย ผีกระสือ เจ้ากรรม และผีเสือ เป็นสิ่งที่เข้าใจในลักษณะของผีที่มีลักษณะเป็นสัตว์ แต่เชื่อว่ามีอำนาจเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ ในวัฒนธรรมตะวันตก คำว่า “werewolf” หรือ “ผีกระสือ” เป็นส่วนหนึ่งของตำนานและนิยายที่เล่าเรื่องของมนุษย์ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าหรือสัตว์อื่น ๆ ในรูปแบบของกระสือในช่วงเวลาของเตือนภัยในยุโรปในศตวรรษที่ 16 และ 17 โดยส่วนใหญ่จะเชื่อว่าผีกระสือจะเปลี่ยนร่างเมื่อมีจันทร์เต็มดวง และมักจะมีความหายนะเป็นกุญแจในการควบคุมการเปลี่ยนร่างนั้น มีหลายหนังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของผีกระสือ ซึ่งมีทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ที่ได้รับความนิยม นี่คือบางตัวอย่าง: “An American Werewolf in London” (1981): เป็นหนังสยองขวัญแนวคอมเมดี้ผสมผสานกับซีนหนังผีกระสืออย่างลงตัว ผลงานของผู้กำกับ John Landis ที่เป็นที่รู้จักดี “TheContinue Reading

ผีมหาลัย ผีหลอก ผีดุ เรื่องผี

รวมตำนานผีในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยในไทย ล้วนก่อตั้งมานานไม่ต่ำกว่า 20 ปี การมีตำนานชวนขนหัวลุกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเวลาที่ล่วงเลยไป ก็คือประวัติศาสตร์ และช่วงชีวิตที่เคยถูกใช้ในที่แห่งนี้ทั้งนั้น บางตำนานก็ถูกพิสูจน์โดยรุ่นพี่ ส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น บางตำนานเชื่อว่าเป็นเพียงกุศโลบายเท่านั้น แล้วคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่!? ใครเคยสัมผัสเรื่องราวเหล่านี้มาแล้วในรั้วมหาวิทยาลัย อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ   ห้องนี้เต็มแล้ว  คืนหนึ่งในหอพักนิสิต มหาวิทยาลัยติดทะเลแห่งหนึ่ง หน้าประตูห้องทุกห้อง จะมีกระดาษแปะเอาไว้ว่า “ห้องนี้เต็มแล้ว” เพื่อเป็นการไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญ..  ในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยของทุกปี จะมีธรรมเนียมการวิ่งขึ้นเขาแต่เช้าตรู่ ซึ่งตามตำนานความเชื่อของนิสิตรุ่นต่อรุ่น เชื่อกันว่าคืนก่อนวันคล้ายวันสถาปนาฯ จะเป็นคืนผีดุ ใครที่ยังใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกห้องพักยามค่ำคืน มักจะเจอเรื่องหลอน และอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่มีสิ่งที่หลอนกว่านั้น เพราะหอพักนิสิต มักจะมีหลายเตียง เชื่อกันว่าในคืนนั้น ถ้าห้องไหนยังมีเตียงว่าง จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมานอนด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลของการติดป้ายหน้าห้องว่า “ห้องนี้เต็มแล้ว” และข้อห้ามคืนผีหลอก ไม่ว่าจะเป็นการห้ามเปิดประตูหากได้ยินเสียงเคาะ ห้ามมีเตียงว่าง ห้ามออกไปไหนคนเดียวตอนกลางคืน คืนนั้นจึงเป็นคืนที่เงียบสงัดและวังเวงที่สุด ทั้งนี้ นี่เป็นความเชื่อของนิสิตที่เล่าต่อกันมายาวนาน และเชื่อว่าเป็นกุศโลบายให้นิสิตเข้านอนเร็ว เพื่อไปร่วมธรรมเนียมการวิ่งขึ้นเขาตั้งแต่เช้าตรู่นั่นเอง    Continue Reading