สำหรับหัวข้อของเรื่องสยองขวัญในสัปดาห์นี้ เป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าสนใจมาก หากถามว่าน่าสนใจยังไง คือผมต้องบอกว่ามันแปลก กว่าเรื่องอื่นไหนๆเลยก็ว่าได้ และมันเป็นหัวข้อที่ น่าจะเกิดและสามารถเกิดได้จริงในยุคปัจจุบันนั้นบ่อยครั้งมาก คุณผู้อ่านครับผมไม่แน่ใจว่า มีใครเป็นพนักงานส่งของ Delivery ไรเดอร์ส่งอาหาร ส่วนใหญ่มันก็จะมีเวลาเปิดปิดทั่วไปหรือบางคนก็อาจจะทำแบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนครับว่าคนที่ทำกะเช้านั้นมันไม่ได้มีอะไรมากมาย เป็นห่วงก็แค่อุบัติเหตุที่มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่สำหรับคนที่ทำตอนกลางคืนนั้น การระมัดระวังอุบัติเหตุมันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้มีแค่อุบัติเหตุทางถนนหนทางอย่างเดียวนั่นน่ะสิ เพราะมันอาจจะมีอุบัติเหตุที่เราเองก็คาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น คนที่สั่งอาหารนั้นอาจจะไม่ใช่คนก็ได้ ซึ่งเรื่องราวในวันนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ เดลิเวอรี่หลอนส่งอาหารที่บ้านผี นั่นเองครับ เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้นแต่ผมคิดไว้ว่ามันจะต้องหลอนและน่ากลัวมากๆแน่นอนครับ
สวัสดีครับวันนี้ผมมีเรื่องราวที่อยากจะนำมาแชร์ ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นไรเดอร์ให้กับแอพส่งอาหารเดลิเวอรี่แอพนึงครับ โดยเรื่องราวที่ผมจะเล่าในวันนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมขับรถไปส่งอาหารที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกพอสมควร แต่ผมยังทำงานอยู่ครับ เนื่องด้วยพิษเศรษฐกิจต่างๆทำให้มีร้านอาหารที่เปิดดึกขึ้น อาชีพนี้ยิ่งทำนานยิ่งทำเยอะก็ยิ่งได้เงินเยอะในแต่ละวันครับ หากขยันซะอย่างยังไงก็ไม่อดตายแน่นอน แต่ปัญหาก็คือ มันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมกดรับออเดอร์ เพราะร้านอาหารที่ต้องไปรับกับที่อยู่ของลูกค้าเนี่ยมันค่อนข้างไกลมากๆ โดยปกติแล้วผมไม่เคยผ่านเส้นทางนั้นมาก่อน จึงเปิดใช้งาน GPS และเดินทางโดยมี GPS นำทางไปตลอดเส้นทาง หนทางรอบเมืองเริ่มเปลี่ยวและมืดลงเรื่อยๆ จนเมื่อผมรับอาหารและขี่มาจนถึงหน้าหมู่บ้านของคุณลูกค้าท่านนี้ ซึ่งก็มีป้อมยามต้องเหงาๆอยู่ป้อมนึงภายในหมู่บ้าน ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วแล้วก็ไม่มีรปภอยู่ด้วย จากที่สังเกตผ่านมาหลายๆหมู่บ้านก็เป็นแบบนี้แทบจะทั้งหมด ในอดีตแถวนี้ละแวกนี้อาจจะเคยรุ่งเรืองมาก่อนก็ได้ แต่ปัจจุบันดูซบเซาแล้วหงอยเหงามากๆ ผมเช็คดูอีกทีว่าในมือถือ มันบอก GPS ถูกหรือเปล่า ปรากฏว่า GPS มันบอกให้ผมขับตรงเข้าไปในหมู่บ้าน ผมจึงขับรถเข้าไปตามที่ GPS บอกมีซอกซอยถูกต้องตามด้วยขึ้นใน GPS เลยครับ ซึ่งข้อสังเกตของหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือ หมู่บ้านแถวนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่มาก แบ่งเป็นตรอกเป็นซอยซ้ายทีขวาที บ้านบังหลังยังทำไม่เสร็จเลย คนส่วนใหญ่ก็ปิดไฟนอนกันหมดแล้ว มองไปมองมาก็น่าขนลุกเหมือนกันนะครับ จนผมขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งตามที่ GPS บอก ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ท้ายสุดของหมู่บ้านเลย ผมจึงพิมพ์แจ้งเตือนบอกลูกค้าว่าผมมาถึงหน้าบ้านแล้วนะครับ สักครู่ลูกค้าก็ตอบกลับมาว่าให้แขวนไว้หน้าบ้านได้เลย ซึ่งในตอนนั้นผมกลับรู้สึกว่ามันแปลก ผมจึงพิมพ์ตอบกลับลูกค้าไปว่าลูกค้าจะไม่เช็คอาหารหน่อยหรอครับ ลูกค้าก็ตอบกลับมาว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้แค่แขวนเอาไว้ที่หน้าประตูรั้วก็พอ ผมก็คิดในใจว่าเอาไงเอากันเราเป็นแค่คนส่งของเอาตามที่ลูกค้าสะดวกก็เพียงพอแล้ว ผมก็เลยเดินหิ้วกล่องอาหารไปที่หน้าบ้านหลังนั้น เราก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า บ้านหลังนี้มีถุงอาหารมากมายแขวนเอาไว้ที่ประตูรั้วไว้เยอะมาก กองขยะที่พื้นมันจะถุงพลาสติกและกล่องอาหาร ถูกเปิดทิ้งไว้เต็มไปหมดเกลื่อนพื้นไปหมด เรากลับว่ามีคนมาแกะกินอาหารแล้วกองทิ้งเอาไว้ตรงนั้นเลย บางส่วนก็เน่าและส่งกลิ่นเหม็นเน่า ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ กลางบ้านในส่วนของโรงจอดรถ มีเก้าอี้ม้าหินอ่อนตั้งเอาไว้ น้าบนกลางโต๊ะก็มีกระถางธูปปักอยู่ตั้งไว้อยู่ด้วย แล้วบ้านทั้งหลังก็ถูกคลองด้วยกุญแจโซ่ไว้อย่างแน่นหนาจากภายนอก ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้แน่นอน ดูๆไปแล้วก็แปลกพิลึกเหมือนกัน ผมจึงรีบพิมพ์ถามลูกค้าเพื่อยืนยันบ้านเลขที่ แต่ความจริงแล้วอยากจะถามว่าทำไมสภาพบ้านเป็นแบบนี้แต่ด้วยอาชีพของผมไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้จึงได้แต่เก็บไว้ในใจ สักพักลูกค้าก็พิมพ์ตอบกลับมาว่า บ้านเลขที่นี้ซอยนี้หมู่บ้านนี้ถูกต้องวางอาหารแล้วกลับไปได้เลย ผมจึงแขวนถุงอาหารไว้ตามที่ลูกค้าต้องการ จากนั้นก็รีบกลับรถออกมาทันทีครับ แต่แล้วเมื่อผมพลิกรถกลับมาแล้วยังไม่ทันออกพ้นซอยนั้นเลย จากนั้นก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นตะโกนเรียกผมจากด้านหลังจากบ้านฝั่งตรงข้าม ก็ผมหันไปก็พบว่ามีลุงคนนึง แกโผล่ออกมาแล้วถามผมว่ามาทำอะไรดึกดื่นแถวนี้ ผมจึงเดินไปหาแกแล้วบอกกับลุงแกว่า ผมทำอาหารมาส่งให้คนที่บ้านหลังนี้ครับ แต่เจ้าของไม่อยู่บ้านจึงให้ผมเอาอาหารมาแขวนเอาไว้ หัวเราะทุกอย่างให้ลุงแกฟังเสร็จปุ๊บ ลุงแกก็ชมว่าขยันจังเลยนะ จากนั้นแกก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมตกใจแทบช็อคเลยก็ว่าได้ครับ พ่อลุงแกบอกว่า มาส่งอาหารให้ผีบ้านหลังนั้นอีกแล้วสินะ…